วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้อควรทราบเกี่ยวกับการจัดเก็บสื่อดิจิทัล

กระบวนวิชา 009304 สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์

ประจำวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2554


สรุปเรื่อง ข้อควรทราบเกี่ยวกับการจัดเก็บสื่อดิจิทัล
________________________________________

 ข้อควรทราบเกี่ยวกับการจัดเก็บสื่อดิจิทัล


-กระดาษ-

  • ความหมายของกระดาษ

    ไฟล์:Paper 450x450.jpg

              กระดาษเป็นวัสดุที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการจดบันทึก มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเป็นระยะเวลานาน และถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยชาวอียิปต์และชาวจีนในสมัยโบราณ แต่วัตถุประสงค์ในการผลิตขึ้นมาในยุคแรกนั้นเป็นเพียงแค่นำมาใช้ในการจดบันทึกเท่านั้น ซึ่งกระดาษเกิดมาจากแรงผลักดันในการสร้างสรรค์งานเขียน จึงเกิดการผลิตกระดาษที่มีการพัฒนาให้เหมาะสมต่อการนำไปใช้งาน จึงทำให้มนุษย์มีการนำกระดาษมาใช้แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และยังคงมีการใช้กระดาษมาจนถึงทุกวันนี้

    แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการเขียน
    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A9

  • การเก็บรักษากระดาษ
    สำหรับการเก็บรักษากระดาษนั้นต้องมีการเก็บรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมถึงแม้กระดาษจะมีคุณลักษณะที่ดีมากเพียงใดแต่หากเก็บรักษาไว้ไม่ถูกวิธีแล้วก็ย่อมทำให้คุณภาพของการกระดาษลดลง ส่งผลให้ลดคุณภาพในการตีพิมพ์ลงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษากระดาษ 
    ดังต่อไปนี้
    (1)ควรเก็บรักษากระดาษให้ห่างจากความชื้น เพราะย่อมส่งผลต่อคุณภาพของกระดาษและการนำไปใช้งานได้
    (2)หากไม่มีการนำกระดาษมาใช้งานจึงควรใช้วัสดุห่อหุ้มกระดาษซึ่งจะช่วยให้กระดาษไม่แห้งจนเกินไป ดังนั้น กระดาษที่ยังไม่มีการนำมาใช้งานควรเก็บไว้ในวัสดุห่อหุ้มเสมอ เพื่อรักษาคุณภาพของกระดาษ
    (3)ควรเก็บรักษากระดาษบนพื้นผิวที่ราบเรียบ
    (4)ไม่ควรเก็บรักษากระดาษบนพื้นที่ที่ีมีน้ำหรือความชื้น เพราะจะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราบนกระดาษและไม่สามารถนำไปใช้งานได้
    (5)ไม่ควรเก็บรักษากระดาษในที่ที่ทำให้กระดาษเกิดการเสียรูปทรง เพราะอาจทำให้กระดาษโค้งงอหรือเกิดรอยพับ ซึ่งจะส่งผลต่อการนำไปพิมพ์
    (6)ไม่ควรเก็บรักษากระดาษในแนวตั้งหรือเก็บรักษากระดาษกองละจำนวนมากเกินไป
    (7)ไม่ควรเก็บรักษากระดาษในที่ที่มีแสงส่องมายังกระดาษโดยตรงหรือความชื้นสูง
    (8)ถ้าสถานที่จัดเก็บรักษากระดาษและสถานที่่ทำงานมีความชื้นและอุณหภูมิแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ให้จัดเก็บกระดาษลงในหีบห่ออย่างน้อยเป็นเวลาหนึ่งวันเพื่อให้กระดาษสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ และป้องกันไม่ให้กระดาษเกิดการโค้งงอหรือเกิดรอยพับได้ง่าย

    แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการเขียน
    http://support-th.canon-asia.com/contents/TH/TH/8000814104.html

  • ปัญหาเกี่ยวกับกระดาษ
    (1)ต้องมีการจัดเตรียมพื้นที่ในการจัดเก็บเป็นจำนวนมาก
    (2)มีข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลในลักษณะที่เป็นสื่อได้ เช่น ไม่สามารถเพิ่มเสียงหรือภาพเคลื่อนไหวลงไปได้
    (3)วัสดุที่นำมาใช้ในการทำกระดาษมีจำนวนลดลง ทำให้กระดาษมีราคาแพงขึ้น
    (4)การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลสามารถทำได้ยากและใช้เวลานาน เนื่องจากมีกระบวนการจัดทำที่ซับซ้อนและยุ่งยาก
    (5)ในการตีพิมพ์นั้น บางสำนักพิมพ์มีการใช้กระดาษและน้ำหมึกที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้ลดประสิทธิภาพในการนำไปใช้งาน ไม่สามารถจัดเก็บสิ่งพิมพ์ได้เป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วและมีอายุการใช้งานที่สั้น
    (6)กระดาษมีอายุในการจัดเก็บได้ประมาณ 100 ปี หลังจากนั้นต้องนำกระดาษไปทำการอนุรักษ์เพื่อยืดอายุในการใช้งาน
    (7)การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของกระดาษเพื่อฟอกกระดาษให้ขาว เติมสารเคมีเพื่อเคลือบให้กระดาษมีความมัน เพื่อป้องกันการฉีกขาดได้ง่าย ส่งผลให้กระดาษมีอายุการใช้งานที่สั้นลง แม้จะเป็นการช่วยรักษากระดาษให้มีความแข็งแรงมากขึ้นก็ตาม
    (8)หากมีการจัดเก็บข้อมูลข่าวสารลงบนกระดาษ ย่อมส่งผลให้เกิดการทำสำเนาเป็นเวลานาน ต้องอาศัยกระบวนการหลายขั้นตอนในการจัดทำ
    (9)ข้อควรระมัดระวัง คือ ในการนำไปสแกนหรือทำสำเนาต้องใช้น้ำหมึกที่มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น
    (10)กระดาษย่อมเป็นปัญหาต่อการให้บริการในการจัดส่งเอกสารง่าย เพราะต้นฉบับอาจเสียหายได้ในระหว่างการนำส่งเอกสาร หากมีการนำมาจัดทำให้อยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเอกสารต้นฉบับที่เป็นกระดาษ และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานกระดาษมากขึ้น สามารถเก็บรักษาได้อย่างมั่งคงถาวรและยั่งยืน


    -แผ่นซีดี-
  • ความหมายของซีดี
    แผ่นซีดี ย่อมาจาก คอมแพ็กดิสก์ (Compact Disc) เป็นแผ่นออฟติคอลที่เก็บข้อมูลต่างๆ ซึ่งแต่เดิมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อในการเก็บเสียงหรือบันทึกเสียงดิจิทัลแทนที่ดิสก์เก็ต ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าดิสก์เก็ตและอีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าแผ่นดิสก์เก็ต ปัจจุบันแผ่นซีดีถือเป็นมาตรฐานการบันทึกเสียงทางการค้า

    แหล่งข้อมูลที่ใช้ประกอบในการเขียน
    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5


  • การเก็บรักษาแผ่นซีดี ควรมีการเก็บหรือดูแลรักษา ดังต่อไปนี้
    (1)ควรเก็บรักษาแผ่นซีดีไว้ในกล่องหรือซองเก็บรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นสกปรกจากฝ่น รอยนิ้วมือ น้ำ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีได้
    (2)ถ้าหากแผ่นสกปรกควรใช้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดแผ่นซีดีโดยเฉพาะ แล้วใช้ผ้าที่นุ่มและสะอาดเช็ดจากส่วนกลางของแผ่นออกไปยังขอบแผ่น ข้อควรระมัดระวังไม่ควรเช็ดเป็นลักษณะวงกลม
    (3)ถ้าต้องการเขียนข้อความลงบนแผ่นซีดีควรใช้ปากกาสักหลาดในการเขียน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อแผ่นซีดี
    (4)ไม่ควรติดสติ๊กเกอร์ลงบนแผ่น

    แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการเขียน

  • ข้อควรทราบเกี่ยวกับแผ่นซีดี
    (1)แผ่นซีดีสามารถทำการเก็บรักษาข้อมูลที่มาจากการทำสำเนาหรือสแกนลงไปในแผ่นหรือฮาร์ดดิสก์ได้ทันที ซึ่งแผ่นซีดีหนึ่งแผ่นสามารถบรรจุข้อมูลได้ประมาณ 650-700 MB และสามารถจัดเก็บต้นฉบับได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ
    (2)ในปัจจุบันวิทยากรมีความก้าวหน้า ทำให้สามารถสำเนาเอกสารได้เร็วขึ้น ซึ่งแต่เดิมในการทำสำเนาข้อมูลหนังสือจำนวน 100 เล่ม ใช้ระยะเวลานานเป็นเดือน
    (3)อายุของแผ่นซีดีในการเก็บข้อมูลสามารถเก็บได้ประมาณ 200 ปี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของแผ่นซีดีเป็นสำคัญ หากซีดีมีคุณภาพต่ำ จะทำให้อายุการใช้งานลดลง
    (4)ความร้อนหรือความเย็นสามารถทำให้คุณภาพของแผ่นซีดีลดลง การจัดเก็บแผ่นให้ห่างจากความร้อนหรือความเย็นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    ***ข้อสังเกต***
    ในการจัดเก็บลงบนสื่อดิจิตอลเป็นสิ่งที่ใช้เก็บรักษาเนื้อหาหรือเอกสารต้นฉบับให้สามารถเก็บได้อย่งมั่นคงถาวรและยืนยาวนาน ซึ่งสิ่งที่ควรทำการเก็บรักษาหรือควรอนุรักษ์ไว้ควรเป็นองค์ความรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

    วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

    วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal)

    กระบวนวิชา 009304 สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์

     ประจำวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2554

    สรุปเรื่อง วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal)

    ____________________________________________

    วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal)


    • ความหมายของวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal)
      วารสารอิเล็กทรอนิกส์  หมายถึง วารสารรูปแบบใหม่ที่มีการจัดเก็บบันทึก และพิมพ์เผยแพร่สารนิเทศทางวิชาการไว้ในรูปแฟ้มคอมพิวเตอร์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์มีกำหนดออกแน่นอน สม่ำเสมอ โดยสามารถเข้าถึง สืบค้นข้อมูล และสั่งซื้อหรือบอกรับเป็นสมาชิกได้จากฐานข้อมูลซีดี-รอม ฐานข้อมูลออนไลน์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์
    • รูปแบบของวารสารอิเล็กทรอนิกส์
      วารสารอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งออกเป้น 3 รูปแบบ คือ
      (1)วารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปของฐานข้อมูลระบบออนไลน์ (Online Based Electronic Journal) เป็นวารสารเนื้อหาฉบับเต็มที่สามารถสืบค้นข้อมูลด้วยระบบออนไลน์จากฐานข้อมูลพาณิชย์ โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ผลิตหรือแหล่งผลิตได้ด้วยการเชื่อมตรง (On-line)
      (2)วารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปฐานข้อมูลซีดี-รอมฉบับเต็ม (CD-ROM Electronic) เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บ บันทึกข้อมูลในรูปดิจิตอล จัดเป็นสื่อประเภทออปติคอล (Optical media) ที่ใช้แสงเลเซอร์ในการอ่านและบันทึกข้อมูล ซีดี-รอมเป็นสื่อบันทึกข้อมูลชนิดสื้อผสมหรือมัลติมีเดีย (Multimedia) ที่ใช้บันทึกข้อมูลได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข ข้อความ ภาพ สัญลักษณ์ และเสียง

                ในปัจจุบันวารสารอิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้ มักมีการจัดพิมพ์ควบคู่ไปกับวารสารที่เป็นสิ่งพิมพ์และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ผลิตวารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบนี้ก็กำลังเพิ่มผลผลิตผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อให้สามารถส่งและเผยแพร่สารนิเทศไปยังที่ต่างๆ ทั้งใกล้และไกลได้อีกด้วย

      (3)วารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบเครือข่าย (Network Electronic Journals) เป็นวารสารในรูปสื่ออิเล็กทรอนิกส์ฉบับเต็มที่เผยแพร่และให้บริการในระดับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่พบในระบบเครือข่าย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
      (3.1)วารสารที่มีการเสนอเนื้อหาในลักษณะบทความ ข้อมูลในแต่ละฉบับบจะประกอบด้วยบทความจากวารสารต่างๆ ซึ่งอาจจะมีการคัดเลือกบทความที่ตีพิมพ์เผยแพร่โดยมีคณะกรรมการพิจารณา และสามารถบอกรับเป็นสมาชิกวารสารได้เช่นเดียวกับวารสารทางวิชาการที่พิมพ์เผยแพร่ในรูปสิ่งพิมพ์
      (3.2)วารสารที่มีการเสนอเนื้อหาในลักษณะจดหมายข่าว เป็นวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถบอกรับเป็นสมาชิกโดยกลุ่มผู้ใช้บริการข่าวสาร (Listserv) ซึ่งจะให้ข่าวสารข้อมูล และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นซึ่งกันและกันในลักษณะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และการประชุมทางไกลด้วยคอมพิวเตอร์

                ปัจจุบันจำนวนวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เผยแพร่ในระบบเครือข่ายทางวิชาการมีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ข้อมูลที่ครอบคลุมสารสนเทศสาขาต่างๆ มากมาย ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยการสืบค้นผ่านระบบ OPAC ของห้องสมุด หรือแหล่งบริการสารสนเทศต่างๆ ซึ่งผู้ใช้อาจใช้บริการอินเตอร์เน็ต บริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และ www. ตลอดจนบริการจดหมายข่าวที่ให้บริการจากศูนย์จดหมายข่าว โดยผู้สนใจสามารถโอนย้ายข้อมูล (Download) เหล่านั้นจากสำนักพิมพ์ ผู้ผลิต หรือจากระบบเครือข่ายได้โดยตรง นอกจากนั้น ห้องสมุดก็สามารถทำดรรชนีวารสาร หรือรวบรวมรายชื่อวารสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือเว็บไซต์ (Website) ต่างๆ เพื่อให้บริการผู้ใช้ต่อไป


    • วิธีการจัดทำวารสารอิเล็กทรอนิกส์
      วารสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อในรูปดิจิตอล บทความวารสารจะจัดเก็บเป็นแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆ และมีกลไกการจัดส่งวารสารหลายรูปแบบ สำหรับการจัดทำวารสารอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี  ดังต่อไปนี้
      (1)วารสารอิเล็กทรอนิกส์โดยวิธีสแกน (Scanned Journals) เป็นวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตขึ้นจากการใช้เครื่องสแกนเนอร์ สแกนบทความจากวารสารที่เป็นสิ่งพิมพ์แล้วจัดเก็บเป็นข้อมูลไว้ในลักษณะแฟ้มรูปภาพ (Image File) ซึ่งสามารถสืบค้นได้จากแฟ้มรูปภาพในลักษณะแฟ้ม PDF และ TIFF เป็นต้น ระบบการจัดการภาพในลักษณะนี้เรียกว่า Document Imaging System โดยระบบจะสแกนภาพเป็นแบบ Bitmap และใช้ Software OCR (Optical Character Recognition) แปลงเป็นข้อความที่สแกนให้อยู่ในรูปที่คอมพิวเตอร์สามารถอ่านได้ และป้อนคำสำคัญสำหรับเอกสารแต่ละฉบับลงไปโดยการทำดรรชนีลงไปในภาพ เพื่อให้สามารถเรียกค้นคืนได้ในภายหลัง
      (2)วารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตจากกระบวนการพิมพ์ (Electronic Journals from Print Production) เป็นการผลิตวารสารที่มีลักษณะคล้ายกับกระบวนการจัดพิมพ์วารสารที่เป็นสิ่งพิมพ์ทั่วไป โดยในระหว่างการพิมพ์บทความนั้นก็จะมีการแก้ไข และส่งข้อมูลไปให้พนักงานจัดพิมพ์ซึ่งจะผนวกเอาตัวอักษรและรูปภาพของบทความเข้าไว้ในแฟ้มที่เรียกว่า PostScript File ให้เป็น PDF และใช้โปรแกรม Adobe Acrobat ในการอ่านแฟ้มข้อมูล PDF ดังกล่าว
      (3)วารสารในรูปวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal Formats) เป็นวารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปดิจิตอล และให้บริการบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเท่านั้น โดยสำนักพิมพ์จะมุ่งให้บริการเชิงพาณิชย์เป็นหลัก เพื่อให้วารสารเหล่านี้เป็นทรัพยากรสารสนเทศส่วนหนึ่ง หรือเป็นบรรณานุกรมของห้องสมุด และให้บริการหน้าสารบัญวารสารในรูปดิจิตอลด้วย การจัดทำวารสารนี้ทางสำนักพิมพ์จะสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเองด้วยภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ซึ่งเป็นภาษามาตรฐานของระบบ ASCII ที่สามารถอ่านได้บน www. ซึ่งในปัจจุบันสำนักพิมพ์ต่างๆ ให้ความสนใจในการจัดเก็บและเผยแพร่บทความในลักษณะแฟ้มข้อมูล PDF และ SGML มากเป็นพิเศษ
    • ลักษณะการให้บริการวารสารอิเล็กทรอนิกส์
      วารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เผยแพร่ในปัจจุบัน จะมีการให้บริการในลักษณะที่เรียกว่า CAS-IAS ซึ่งก็คือการนำบริการทั้งสองประเภทมารวมไว้ด้วยกัน ได้แก่
      (1)บริการข่าวสารทันสมัย (Current Alerting Service-CAS) ที่เสนอข้อมูลรายการบทความหรือสารบัญวารสารให้ผู้สนใจสืบค้นตลอดเวลาตามความสนใจ
      (2)บริการจัดส่งบทความให้ผู้ใช้เป็นรายบุคคลตามการสั่งซื้อ (Individual Article Supply-IAS)
                ธุรกิจการให้บริการวารสารอิเล็กทรอนิกส์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว สำนักพิมพ์ต่งๆ รวมทั้งตัวแทนบอกรับวารสารเริ่มหันมาสนใจในการลงทุนและจัดให้บริการจัดส่งเอกสารด้วยวิธีการดังกล่าวเป็นจำนวนมากขึ้น
    • สรุปเกี่ยวกับวารสารอิเล็กทรอนิกส์
      จากปัญหาที่ห้องสมุดประสบในเรื่องงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และความไม่แน่นอนในการจัดสรรงบประมาในการจัดหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งพิมพ์ประเภทวารสารซึ่งมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารนั้นควรจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมห้องสมุดโดยเฉพาะห้องสมุดมหาวิทยาลัยควรทำการพิจารณาและคำนึงถึงแนวทางในการจัดหาวารสารที่มีอยู่ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวารสารที่เป็นสิ่งพิมพ์ วารสารที่อยู่ในรูปวัสดุย่อส่วน และวารสารอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้เพื่อให้ห้องสมุดสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีความสมบูรณ์มากที่สุด


      แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการเขียน
      สมร ตาระพันธ์.บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ มข.18,2(พฤษภาคม 2543) : 20-30.
      http://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000-12235.html